เศษส่วนปรากฏในทุกเรื่อง—ตั้งแต่สูตรอาหาร งานก่อสร้าง ภาษี ไปจนถึงการแชร์พิซซ่า การฝึกคำนวณเศษส่วนให้ชำนาญจะช่วยประหยัดเวลา ลดข้อผิดพลาด และเสริมความมั่นใจให้ทั้งนักเรียนและมืออาชีพ ตั้งแต่การบวก ⅔ + ¼ ไปจนถึงการคูณ ⅝ × ¾ คู่มือนี้จะอธิบายขั้นตอนอย่างละเอียด ช่วยคลายความสับสน และแสดงให้เห็นว่าเศษส่วนเชื่อมโยงกับปัญหาในชีวิตจริงอย่างไร
เศษส่วนคืออะไร?
เศษส่วนคือรูปแบบการแสดงส่วนหนึ่งของทั้งหมด เขียนด้วยตัวเลขสองตัววางซ้อนกันโดยมีเส้นคั่น ด้านบนคือเลขเศษ (ส่วนที่คุณมี) ส่วนด้านล่างคือเลขส่วน (จำนวนส่วนทั้งหมดที่ประกอบเป็นหนึ่งหน่วย)
ลองนึกถึงพิซซ่า: ถ้าหั่นเป็น 8 ชิ้นเท่าๆ กัน แล้วคุณกินไป 3 ชิ้น คุณก็ได้กิน 3⁄8 ของพิซซ่า 3 บอกจำนวนชิ้นที่คุณกิน ส่วน 8 บอกจำนวนชิ้นทั้งหมด
เศษส่วนไม่ใช่แค่ในห้องเรียนคณิตศาสตร์เท่านั้น สูตรอาหารมักบอกให้ใช้ ½ ถ้วยน้ำตาลหรือ ¾ ช้อนชาเกลือ งานก่อสร้างและการวัดก็ต้องใช้เสมอ—เช่น แผ่นไม้หนา 5⁄8 นิ้ว แถมยังเจอเวลาหารค่าใช้จ่ายกับเพื่อนหรือคำนวณส่วนลดอีกด้วย
ตัวอย่างที่เจอทุกวัน:
-
ครึ่งพาย:
½ -
สามในสี่ของถังน้ำมัน:
¾ -
ห้าส่วนแปดนิ้วบนไม้บรรทัด:
5⁄8
เศษส่วนช่วยให้ตัวเลขยืดหยุ่น—ช่วยอธิบายสิ่งที่ไม่ลงตัวเป็นจำนวนเต็มได้

การบวกเศษส่วน
การบวกเศษส่วนทำได้ง่ายเมื่อทั้งสองเศษส่วนมีตัวส่วนเหมือนกัน—เพียงบวกตัวเศษเข้าด้วยกันแล้วคงตัวส่วนไว้
ตัวอย่าง: 1⁄4 + 2⁄4 = 3⁄4
แต่ถ้าตัวส่วนต่างกัน เราต้องทำให้ตัวส่วนเหมือนกันก่อน วิธีที่ง่ายที่สุดคือหา ตัวส่วนร่วมเล็กสุด (LCM) ของตัวส่วนทั้งสอง แล้วปรับเศษส่วนให้มีตัวส่วนร่วมเดียวกันก่อนจึงค่อยบวก
ตัวอย่างเมื่อมีตัวส่วนต่างกัน: 1⁄3 + 1⁄6
-
ตัวส่วนร่วมเล็กสุดคือ 6
-
เขียน
1⁄3ใหม่เป็น2⁄6 -
บวกได้
2⁄6 + 1⁄6 = 3⁄6 -
ทำให้เรียบง่ายโดยหารทั้งตัวเศษและตัวส่วนด้วย 3:
3⁄6 = ½
ทริกง่ายๆ: ถ้าหนึ่งในตัวส่วนเป็นพหุคูณของอีกตัว (เช่น 2 และ 4) เราสามารถข้ามขั้นตอนการหา LCM เต็มรูปแล้วใช้ตัวส่วนที่ใหญ่กว่าได้เลย
การลบเศษส่วน
การลบเศษส่วนเกือบคล้ายกับการบวก เพียงแต่เปลี่ยนเครื่องหมายเป็นลบ
หากตัวส่วนเหมือนกัน ให้ลบตัวเศษแล้วคงตัวส่วนไว้:
5⁄8 − 3⁄8 = 2⁄8 ซึ่งทำให้เรียบง่ายแล้วได้ 1⁄4
ถ้าตัวส่วนต่างกัน ต้องหา ตัวส่วนร่วมเล็กสุด ก่อน แล้วเขียนเศษส่วนใหม่ให้มีตัวส่วนเดียวกันแล้วลบ:
ตัวอย่างเมื่อมีตัวส่วนต่างกัน:5⁄6 − 1⁄3
-
ตัวส่วนร่วมเล็กสุดคือ 6
-
เขียน
1⁄3ใหม่เป็น2⁄6 -
ลบได้
5⁄6 − 2⁄6 = 3⁄6 -
ทำให้เรียบง่าย:
3⁄6 = ½
ถ้าค่าตัวเศษของเศษส่วนน้อยกว่าหลังปรับตัวส่วน ผลลัพธ์อาจเป็นลบ เช่น:1⁄4 − 3⁄4 = −2⁄4 = −½
หมายเหตุสั้นๆ: ถ้าต้องการสามารถเขียนคำตอบลบเป็นเศษผสมได้ แต่การทิ้งไว้ในรูปเศษส่วนเกิน (−5⁄4) ก็ยอมรับได้ในโจทย์ส่วนใหญ่
การคูณเศษส่วน
การคูณเศษส่วนมักเป็นการคำนวณที่ง่ายที่สุด—ไม่ต้องหา ตัวส่วนร่วม กฎคือ คูณตัวเศษเข้าด้วยกัน คูณตัวส่วนเข้าด้วยกัน แล้วทำให้เรียบง่ายถ้าเป็นไปได้
ทำตามขั้นตอนนี้:
ตัวอย่าง: 2⁄3 × 3⁄5
-
คูณตัวเศษ:
2 × 3 = 6 -
คูณตัวส่วน:
3 × 5 = 15 -
รวมเป็น
6⁄15 -
ทำให้เรียบง่ายโดยหารด้วย 3:
6⁄15 = 2⁄5
วิธีนี้ใช้ได้ทั้งกับเศษส่วนถูก (1⁄2) และเศษส่วนเกิน (7⁄4)
ตัวอย่างอีกชุด: 5⁄8 × 4⁄10
-
ตัวเศษ:
5 × 4 = 20 -
ตัวส่วน:
8 × 10 = 80 -
รวมเป็น
20⁄80 -
ทำให้เรียบง่ายโดยหารด้วย 20 ได้ 1⁄4
หนึ่งในทางลัดที่มีประโยชน์คือ การจดจำยกเลิกก่อนคูณ ถ้าตัวเศษกับตัวส่วนมีตัวหารร่วม ให้นำมาหารก่อนเพื่อลดขนาด เช่น 6⁄10 × 5⁄9
-
สังเกตว่า 10 กับ 5 หารด้วย 5 ได้
-
ลด
5⁄10ให้เหลือ1⁄2 -
โจทย์กลายเป็น
6⁄2 × 1⁄9 = 3 × 1⁄9 = 3⁄9 = 1⁄3
ทราบหรือไม่?
การคูณด้วยเศษส่วนน้อยกว่า 1 จะทำให้ผลลัพธ์เล็กลงเสมอ เช่น ¾ × ½ = ⅜ ซึ่งน้อยกว่าเศษส่วนทั้งสองเริ่มต้น
การหารเศษส่วน
การหารเศษส่วนดูเหมือนซับซ้อน แต่จริงๆ แล้วแค่เพิ่มขั้นตอนหนึ่งจากการคูณ คือพลิกเศษส่วนตัวที่สอง (กลับเศษกับส่วน) แล้วคูณตามปกติ
กฎ “พลิกแล้วคูณ” ทำให้เราหลีกเลี่ยงการหารเศษส่วนโดยตรง เพราะการหารเศษส่วนเท่ากับการคูณด้วยเศษส่วนกลับเสมอ
ตัวอย่าง: ¾ ÷ ½
-
คงเศษส่วนแรกไว้: ¾
-
พลิกเศษส่วนที่สอง (
½เป็น²⁄₁) -
คูณ:
¾ × ²⁄₁ = ⁶⁄₄ -
ทำให้เรียบง่ายโดยหารด้วย 2 ได้
³⁄₂ -
ถ้าต้องการ เขียนเป็นเศษผสมได้ 1½
ตัวอย่างอีกชุด: ⁵⁄₆ ÷ ¹⁰⁄₉
-
พลิก
¹⁰⁄₉เป็น⁹⁄₁₀ -
คูณ:
⁵⁄₆ × ⁹⁄₁₀ = ⁴⁵⁄₆₀ -
ทำให้เรียบง่ายโดยหารด้วย 15 ได้
¾
เช็คลัด: การหารด้วยเศษส่วนน้อยกว่า 1 มักทำให้ผลลัพธ์ใหญ่ขึ้น ส่วนการหารด้วยเศษส่วนมากกว่า 1 จะให้ผลลัพธ์เล็กลง
ตัวอย่างในชีวิตจริง: ถ้าสูตรต้องการ ¾ ถ้วย แต่คุณต้องการแค่ครึ่งสูตร สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ¾ ÷ 2 ตามกฎจะได้ ¾ × ½ = 3⁄8 ถ้วย
ข้อควรจำ: ห้ามหา ตัวส่วนร่วม เมื่อหารเศษส่วน ให้พลิกเศษส่วนที่สองแล้วคูณ—วิธีนี้เร็วและลดความผิดพลาด
การเชื่อมโยงการดำเนินการเศษส่วนกับแนวคิดคณิตศาสตร์ระดับสูงขึ้น
เศษส่วนอาจดูเหมือนบทเรียนในห้องเรียน แต่จริงๆ แล้วปรากฏในทุกที่เมื่อคุณเริ่มสังเกต—ไม่ใช่แค่ในข้อสอบคณิตศาสตร์ เมื่อใดก็ตามที่คุณบวก ลบ คูณ หรือหารเศษส่วน คุณกำลังใช้แนวคิดที่เชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันและคณิตศาสตร์ขั้นสูงมากมายโดยไม่รู้ตัว
ลองคิดดู:
-
อัตราส่วนและสูตรอาหาร: เมื่อปรับ
⁸⁄₁₂เป็น²⁄₃คุณไม่ได้แค่ทำให้เรียบง่าย แต่กำลังอธิบายอัตราส่วน อัตราส่วนนั้นช่วยเพิ่มสูตรคุกกี้เป็นสองเท่าหรือปรับส่วนผสมถ้าต้องการครึ่งหนึ่งของสูตร -
พีชคณิตแบบไม่ต้องกลัวชื่อ: การแก้
x ÷ ¾ = 2ก็ใช้เทคนิคเดียวกับที่คุณรู้—พลิก¾เป็น⁴⁄₃แล้วคูณ เป็นการใช้เศษส่วนช่วยแก้สมการ -
การแปลงหน่วยที่ใช้จริง: เราย้ายจากฟาเรนไฮต์เป็นเซลเซียสบ่อยแค่ไหน? สูตรใช้เศษส่วน
⁵⁄₉หรือบางทีคุณแปลงไมล์ต่อชั่วโมงเป็นเมตรต่อวินาที—ก็เพราะเศษส่วนช่วยให้แปลงหน่วยได้ -
ความน่าจะเป็นและโอกาส: การทอยลูกเต๋าหกหน้า โอกาสออก 4 คือ
¹⁄₆การหาความน่าจะเป็นของเหตุการณ์สองอย่างเกิดขึ้นมักต้องบวกหรืคูณเศษส่วน แม้อาจไม่ทันสังเกต
เศษส่วนไม่ใช่แค่ตัวเลขมีเส้นขั้นกลาง แต่เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เข้าใจความสัมพันธ์ การปรับขนาด และการเปลี่ยนแปลง เมื่อคุณเห็นว่าเศษส่วนปรากฏบ่อยแค่ไหน มันจะดูเหมือนทางลัดที่คุณคุ้นเคยมากกว่างานบ้าน
ข้อเท็จจริงน่าสนใจ: ชาวอียิปต์โบราณเขียนเศษส่วนเกือบทั้งหมดให้มี 1 ในตัวเศษ ถ้าต้องการเขียน
²⁄₃จะเขียนเป็น½ + ¹⁄₆วิธีนั้นใช้ได้ แต่เศษส่วนสมัยใหม่ของเราดูง่ายกว่ามาก
