การแปลงเซลเซียสเป็นฟาเรนไฮต์ทำได้ง่ายโดยการคูณด้วย 9/5 แล้วบวก 32 ไม่ว่าจะเป็นการอ่านข้อมูลสภาพอากาศ การทำตามสูตรอาหาร หรือศึกษาประวัติสภาพอากาศที่ผ่านมา การใช้ เครื่องมือแปลงหน่วย ออนไลน์ช่วยให้ได้ผลลัพธ์รวดเร็วและแม่นยำ
เซลเซียสเป็นฟาเรนไฮต์ - วิธีแปลงเซลเซียสเป็นฟาเรนไฮต์
เซลเซียส (°C) และ ฟาเรนไฮต์ (°F) เป็นหน่วยวัดอุณหภูมิที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย เซลเซียสเป็นมาตรฐานที่ใช้ในหลายประเทศ ส่วนฟาเรนไฮต์นิยมใช้ในสหรัฐอเมริกา
ในการแปลง เซลเซียสเป็นฟาเรนไฮต์ ใช้สูตรนี้:
ฟาเรนไฮต์ (°F) = (เซลเซียส × 9/5) + 32
ตัวอย่าง หากต้องการแปลง 25°C เป็นฟาเรนไฮต์:
(25 × 9/5) + 32 = 77°F
คุณสามารถทดลองแปลงค่าอื่น ๆ ได้ทันทีด้วย เครื่องมือแปลงอุณหภูมิ ออนไลน์
คุณรู้หรือไม่?
-
อุณหภูมิเย็นสุดที่เคยบันทึกบน โลก คือ −128.6°F (−89.2°C) ที่แอนตาร์กติกาในปี 1983
-
น้ำเดือด ที่อุณหภูมิต่างกันขึ้นอยู่กับระดับความสูง ในน้ำทะเล น้ำเดือดที่ 100°C (212°F) แต่บนยอดเขาเอเวอเรสต์น้ำเดือดเพียง 68°C (154°F) เนื่องจากแรงดันอากาศต่ำกว่า
-
อุณหภูมิร่างกายมนุษย์ อยู่ที่ประมาณ 37°C (98.6°F) แต่จะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยตามเวลาและกิจกรรม
-
ดาวอังคาร มีอุณหภูมิเฉลี่ยพื้นผิวประมาณ −63°C (−81°F) ทำให้เป็นดาวเคราะห์ที่มีอุณหภูมิเย็นจัดในระบบสุริยะของเรา
-
อุณหภูมิสูงสุดที่เคยบันทึกบนโลกคือ 134°F (56.7°C) ที่ Death Valley, California ในปี 1913
ความหนาวเย็นครั้งยิ่งใหญ่ในปี 1709 – ฤดูหนาวที่เปลี่ยนยุโรป
หนึ่งในฤดูหนาวที่หนาวจัดที่สุดในประวัติศาสตร์ยุโรป ความหนาวเย็นครั้งยิ่งใหญ่ในปี 1709 อุณหภูมิลดลงถึง −15°C (5°F) ทั่วฝรั่งเศสและหลายพื้นที่ในยุโรป ทะเลสาบและแม่น้ำกลายเป็นน้ำแข็ง พืชผลล้มเหลว และผู้คนนับพันต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด
ความหนาวจัดนี้กินเวลาหลายเดือน นำไปสู่การขาดแคลนอาหารอย่างกว้างขวางและความวุ่นวายทางเศรษฐกิจ พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศสก็ได้รับผลกระทบ พระราชวังแวร์ซายกลายเป็นสถานที่ที่แทบจะไม่สามารถอยู่อาศัยได้จากอุณหภูมิที่เย็นจัด เหตุการณ์นี้ถือเป็นหนึ่งในคลื่นความหนาวที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์
.jpg)
.jpg)